Tuesday, December 16, 2014

ไปรับตัวคูเปอร์ กะ มายา ที่่คลีนิคของ shelter หลังทำหมัน

อย่างที่เล่าในตอนที่แล้วว่าบ้านเราอุปการะแมวกับหมาจาก AFV shelter มาอย่างละหนึ่งตัว ทำสัญญาเสร็จอะไรเสร็จ ไม่ได้รับตัวหมาแมวกลับบ้านได้ทันที เพราะ shelter ต้องส่งไปทำหมันที่คลีนิคของ shelter ก่อน เท่าที่เราสังเกต หมาแมวใน shelter แทบไม่มีตัวไหนทำหมันแล้วเลย พอเราอุปการะทาง shelter ก็จะส่งไปทำหมันก่อนเรารับตัวกลับ โดยทำที่คลีนิคของ shelter เอง ซึ่งมีราคาถูกกว่าคลีนิคหรือ รพ สัตว์ข้างนอก โดยเราเป็นจ่ายค่าทำหมันให้กับสัตว์ที่เรารับอุปการะเอง

ขอเล่าสรุปแยกหมากะแมวละกัน จะได้เห็นภาพชัดๆ เริ่มจากแมวก่อนนะ เพราะทำอุปการะเรื่องเสร็จก่อนหมา

เราไปที่ shelter ครั้งแรกวันศุกร์ ก็ทำเรื่องอุปการะแมวเสร็จเลยในวันนั้น ได้รับปลอกคอหนึ่งอัน พร้อมกับ tag ที่แสดงเลข ID ของ Cooper ในระบบของ shelter และเบอร์โทรของ shelter  พร้อมฝังไมโครชิพใฟ้ด้วยฟรี พอทำเรื่องอุปการะเสร็จ shelter ก็นัดทำหมันในวันจันทร์ถัดไป โดยคูเปอร์จะต้องกินนอนที่ shelter ไปก่อน แล้วเราไปรับตัวได้ที่คลีนิคของ shelter หลังทำหมันเสร็จ

วันจันทร์เราสายๆ คลีนิคก็โทรเข้าเบอร์สามีเรา บอกเวลาที่จะให้เราไปรับคูเปอร์ พอถึงเวลาเราก็ไป เอากรงไปด้วย เราก็ยื่นกรงให้กับพยาบาลไปรับคูเปอร์มาให้เรา ปรากฏว่าพยาบาลถือกรงเปล่ากลับมา ส่วนอีกมือถือกล่องกระดาษที่มีคูเปอร์อยู่ เค้าบอกว่าแมวเพิ่งฟื้นจากวางยา อารมณ์จะไม่ค่อยดี (ซึ่งแตกต่างกับหมา) เลยให้เค้าอยู่ในกล่องตัวเองที่ shelter หิ้วเค้ามาส่งดีกว่า แล้วยังบอกอีกว่าให้จำกัดบริเวณเค้าในห้องปิดไปก่อน ตอนเช้าค่อยปล่อยให้เค้าสำรวจส่วนอื่นๆ ของบ้าน

กล่องที่ทาง shelter ใส่คูเปอร์ไว้ เราก็รับกลับมาพร้อมกล่อง 
แต่กล่องเปียกฉี่เหม็นหึ่ง พอถึงบ้านปุ๊บ เอาคูเปอร์ออกปั๊บ ก็ทิ้งกล่องทันที

ส่วนเรื่องกินให้รอสองทุ่มถึงกินได้ คูเปอร์ไม่มียาอะไร อาจเพราะเป็นตัวผู้ แผลเล็กๆ ตรงถุงป๋องแป๋ง เดี๋ยวก็หายมั้ง แต่ที่ตลกคือเค้าโกนขนรอบๆ ป๋องแป๋งจนโล่งโจ้งไปหมด

โล่งโจ้งๆ เคยเอาแมวตัวผู้ที่ไทยไปทำหมันนะ ไม่เห็นหมอโกนแบบนี้เลย


พอรับกล่องคูเปอร์มาก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นฉุนๆ ในรถอบอวลไปด้วยกลิ่นฉุนๆ พอถึงบ้านก็เอาเข้าห้องแมว ปิดประตู เปิดกล่อง คูเปอร์เอ๋ย ก้น ขา พุง เปียกฉี่ไปหมด สรุปว่าเราจ่ายค่าทำหมันไปทั้งหมด $31 ส่วนค่าธรรมเนียมอุปการะแมวจ่ายที่ shelter ไปแล้วเมื่อวันศุกร์ $5

เปียกฉี่ไปหมดเลยคูเปอร์เอ๊ย อาบน้ำก็ไม่ได้ ต้องรอแผลทำหมันหายก่อน
แต่ผ่านไป 3-4 วัน กลิ่นก็หายเกือบหมด พอครบกำหนด 7 วัน จะจับอาบน้ำซะหน่อย 
ฮีก็ดันซึมกระทือซะงั้น เห็นจามมา 2-3 วันแล้วด้วย เลยไม่อาบ พอเช้ารุ่งขึ้นก็คึกเหมือนเดิม


ต่อไปเรื่องของหมามั่ง วันศุกร์ที่เราไป shelter วันแรก ทำเรื่องรับอุปการะแมวได้อย่างเดียว ส่วนหมาต้องรอ yard check คือ shelter จะส่ง จนท มาเช็คสนามหญ้าบ้านเรา พร้อมกับรั้วบ้าน ถ้าไม่มีปัญหาอะไรก็รับอุปการะได้ วันรุ่งขึ้นพอรู้ผล yard check ก็ไปที่ shelter อีกครั้งเพื่อทำเรื่องอุปการะหมา ไหนๆ ก็อยู่ที่ shelter แล้ว เราเลยแวะหาคูเปอร์ และขอ จนท เอามายาออกมาเล่นด้วยอีกครั้ง มายาท่าทางจะจำเราได้ พอเห็นเราเดินไปใกล้กรงก็ร้องเรียกใหญ่เลย

เรื่องอุปการะ เนื่องจากมายาเป็นหมาและ city ที่เราอยู่มีกฎหมายเรื่อง dog license คือหมาต้องมีใบอนุญาต โดย shelter บอกว่าเมื่อทำหมันกับฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้าแล้ว ให้เอาใบรับรองจากคลีนิคมาทำ license ได้ที่ shelter นอกนั้นก็เป็นเรื่องยา โดยเค้าจะให้เราเลือกว่าจะรับยาอะไรกลับบ้านในวันที่มารับตัวมายาหลังทำหมันบ้าง ก็จะมีพวกยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ โคนใส้คอกันเลียแผล เป็นต้น โดยที่ shelter นัดทำหมันได้วันอังคาร เพราะคิววันจันทร์เต็มแล้ว

พอถึงวันจันทร์ ตอนเช้าเราไปส่งสามีที่สนามบิน เพราะเค้าต้องเดินทางไปทำงานต่างรัฐ ตอนเย็นเราก็ไปรับมายาที่คลีนิคเองคนเดียว ฝนก็ตกทั้งวัน ไม่ชอบขับรถตอนฝนตกเลย จริงๆ นี่เป็นครั้งแรกด้วยที่ขับรถตอนฝนตก แถมตกหนักอีก

พอไปถึงก็รอคิว เราเอาเชือกจูงกับปลอกคอไปเอง พอถึงคิวเค้าก็ถามว่าเอาเชือกจูงมามั้ย เราก็ยื่นให้ไป สักพักเค้าก็จูงออกมาให้ มายาออกท่าทางดีใจ แต่ยังเมายานิดๆ เลยไม่ร่าเริงมากเท่าไหร่ พยาบาลก็อธิบายคล้ายๆ ตอนไปรับคูเปอร์ แต่เนื่องจากมายามียาด้วย 2 ตัว ก็ต้องกินยาตามเวลา โดยเริ่มได้หลังกินข้าวตอนสองทุ่มคืนนั้นเลย เราให้พยาบาลเพิ่มโคนให้ด้วย เผื่อมายากัดแผล สรุปจ่ายไปทั้งหมด $80 ส่วนค่าอุปการะที่ต้องจ่ายที่ shelter ณ ตอนทำเรื่องเมื่อวันเสาร์ ก็ไม่ต้องจ่าย เพราะได้ลด Black Friday $50 แล้วค่าอุปการะมายา $50 เลยฟรีไป ของมายาแค่ $50 เค้าบอกว่าเพราะกรณีมายาเป็นเพราะ owner turmed in คือ เจ้าของเดิมมายาเอามายามาทิ้งที่ shelter เลยคิดค่าอุปการะแค่ $50 ปกติจะอยู่ที่ตัวละ $80-$100

มายานั่งเรียบร้อยมาก เงียบตลอดทาง

เสร็จเรียบร้อยเราก็จูงมายาขึ้นรถ ตอนแรกสามีจะเอากรงใส่ท้ายรถให้ แต่เราคงจะอุ้มหมาขึ้นท้ายรถเองไม่ไหว จะให้มันโดดเองก็มีแผลผ่าตัดที่ท้องแถมเพิ่งฟื้นยาสลบ เราเลยบอกว่าจะให้หมานั่งในรถ หมาคงไม่กวนเราหรอก พอออกจากคลีนิคเราก็จูงหมาขึ้นรถ ปรากฏมายาไม่ยอมขึ้นรถเองทั้งที่มันเตี้ยๆ เอาขาหน้าขึ้นไปข้างนึงแล้วก็เอาลง เราเลยต้องอุ้มชีขึ้นรถ ขากลับฝนก็ตกหนักอีกตามเคย มายาก็นั่งนิ่งเงียบตลอดทาง พอถึงบ้านถึงได้รู้ว่ามายาเมารถ น้ำลายยืดเลย 555

โถ นึกว่าเป็นหมาเรียบร้อย นั่งรถเงียบมาก ที่แท้เมารถนี่เอง น้ำลายยืดเลย 555

No comments:

Post a Comment

All contents and pictures in this blog is copyrighted@2009 by monkey-girl. All right reserved.

Back to TOP