ขอเริ่มด้วยการโพสต์ Timeline ก่อนละกันนะคะ
เคสเราใช้เวลารับแต่เริ่มยื่นจนถึงวันได้วีซ่าประมาณ 7 เดือนครึ่งค่ะ
หมายเหตุ: สีแดง คือ ขั้น USCIS สีฟ้า คือ ขั้น NVC และสีเขียว คือ ขั้น US Embassy in Bangkok
2012 Jan 05 ส่ง I-130 Package ไปยัง USCIS
2012 Jan 06 I-130 ไปถึง USCIS (เช็คจาก mail tracking number)
2012 Jan 08 Receipt Notice (NOA1) issued โดย USCIS
2012 Jan 14 ได้รับจดหมายแจ้ง NOA1 (ส่งมายังบ้านของสามีที่เมกา)
2012 May 09 Approval Notice (NOA2) issued โดย USCIS
2012 May 12 ได้รับจดหมายแจ้ง NOA2 (ส่งมายังบ้านของสามีที่เมกา)
2012 May 21 เราดำเนินการขอใบรับรองความประพฤติที่กองทะเบียนประวัติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2012 Jun 06 ไปรับใบรับรองความประพฤติที่กองทะเบียนประวัติ
2012 Jun 11 ได้รับแจ้ง Case Number และแจ้งให้จ่าย Affidavit of Support (AOS) fee bill received จาก NVC ทางอีเมล์
2012 Jun 12 สามีจ่าย AOS fee bill และเราส่ง DS-3032 ไปยัง NVC ทางอีเมล์
2012 Jun 13 AOS fee bill status ขึ้นว่าจ่ายแล้ว (NVC ได้รับ fee นี้เรียบร้อยแล้ว)
2012 Jun 20 ได้รับ DS-3032 receipt notice จาก NVC ทางอีเมล์
2012 Jun 21 IV fee bill ขึ้นในระบบให้จ่ายได้แล้วและสามีดำเนินการจ่าย
2012 Jun 26 เราส่ง IV Package (DS-230 Package) ไปถึง NVC จากประเทศไทย ใช้บริการส่งด่วนโดย DHL 3 วันถึง
2012 Jun 28 สามีส่ง AOS Package (I-864 Package) ไปยัง NVC จาก CA และ IV package ของเราไปถึง NVC
2012 Jun 29 AOS Package ของสามีไปถึง NVC
2012 Jul 05 เราไปตรวจสุขภาพที่บำรุงราษฎร์
2012 Jul 09 ได้รับอีเมล์แจ้ง “Checklist: AOS missing” บอกว่า NVC ได้รับ IV package แล้ว แต่ยังไม่ได้รับ AOS package
2012 Jul 11 ได้รับอีเมล์แจ้ง P4 (interview date) และเคสเราถูกส่งจาก NVC ไปยังสถานทูตอเมริกาที่กรุงเทพฯ
2012 Jul 20 เราเดินทางไปเยี่ยมสามีที่อเมริกาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว
2012 Aug 14 เราเดินทางกลับจากเยี่ยมสามีที่อเมริกา
2012 Aug 16 วันสัมภาษณ์วีซ่า CR-1 ที่สถานทูตอเมริกาในกรุงเทพฯ
2012 Aug 17 CR1 visa issued และ วีซ่าท่องเที่ยวในพาสปอร์ตเก่าถูกประทับตรายกเลิก
2012 Aug 18 ได้รับพาสปอร์ตพร้อมวีซ่า CR-1 และเอกสารซองน้ำตาลทางไปรษณีย์
2012 Jan 06 I-130 ไปถึง USCIS (เช็คจาก mail tracking number)
2012 Jan 08 Receipt Notice (NOA1) issued โดย USCIS
2012 Jan 14 ได้รับจดหมายแจ้ง NOA1 (ส่งมายังบ้านของสามีที่เมกา)
2012 May 09 Approval Notice (NOA2) issued โดย USCIS
2012 May 12 ได้รับจดหมายแจ้ง NOA2 (ส่งมายังบ้านของสามีที่เมกา)
2012 May 21 เราดำเนินการขอใบรับรองความประพฤติที่กองทะเบียนประวัติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2012 Jun 06 ไปรับใบรับรองความประพฤติที่กองทะเบียนประวัติ
2012 Jun 11 ได้รับแจ้ง Case Number และแจ้งให้จ่าย Affidavit of Support (AOS) fee bill received จาก NVC ทางอีเมล์
2012 Jun 12 สามีจ่าย AOS fee bill และเราส่ง DS-3032 ไปยัง NVC ทางอีเมล์
2012 Jun 13 AOS fee bill status ขึ้นว่าจ่ายแล้ว (NVC ได้รับ fee นี้เรียบร้อยแล้ว)
2012 Jun 20 ได้รับ DS-3032 receipt notice จาก NVC ทางอีเมล์
2012 Jun 21 IV fee bill ขึ้นในระบบให้จ่ายได้แล้วและสามีดำเนินการจ่าย
2012 Jun 26 เราส่ง IV Package (DS-230 Package) ไปถึง NVC จากประเทศไทย ใช้บริการส่งด่วนโดย DHL 3 วันถึง
2012 Jun 28 สามีส่ง AOS Package (I-864 Package) ไปยัง NVC จาก CA และ IV package ของเราไปถึง NVC
2012 Jun 29 AOS Package ของสามีไปถึง NVC
2012 Jul 05 เราไปตรวจสุขภาพที่บำรุงราษฎร์
2012 Jul 09 ได้รับอีเมล์แจ้ง “Checklist: AOS missing” บอกว่า NVC ได้รับ IV package แล้ว แต่ยังไม่ได้รับ AOS package
2012 Jul 11 ได้รับอีเมล์แจ้ง P4 (interview date) และเคสเราถูกส่งจาก NVC ไปยังสถานทูตอเมริกาที่กรุงเทพฯ
2012 Jul 20 เราเดินทางไปเยี่ยมสามีที่อเมริกาด้วยวีซ่าท่องเที่ยว
2012 Aug 14 เราเดินทางกลับจากเยี่ยมสามีที่อเมริกา
2012 Aug 16 วันสัมภาษณ์วีซ่า CR-1 ที่สถานทูตอเมริกาในกรุงเทพฯ
2012 Aug 17 CR1 visa issued และ วีซ่าท่องเที่ยวในพาสปอร์ตเก่าถูกประทับตรายกเลิก
2012 Aug 18 ได้รับพาสปอร์ตพร้อมวีซ่า CR-1 และเอกสารซองน้ำตาลทางไปรษณีย์
เราได้สมัครเป็นสมาชิกเว็บไซต์ visajourney.com ไว้ด้วย ซึ่งเค้ามีเครื่องมือให้สร้าง timeline ได้เพียงแค่กรอกวันที่ต่างๆ ลงไป หน้าตา timeline ที่ visajourney เป็นแบบนี้ค่ะ
โดยการเริ่มยื่น CR-1 นั้นมีเงื่อนไข คือ ต้องจดทะเบียนสมรสกับชาวอเมริกันไม่เกิน 2 ปีนับจากวันที่เริ่มยื่นขอ CR-1 เพราะฉะนั้น เพียงแค่จดทะเบียนสมรสเรียบร้อย มีใบทะเบียนสมรสไว้ในครอบครองแล้วก็สามารถยื่นขอ CR-1 ได้เลยค่ะ
เราแต่งงานเดือน ต.ค. 2011 ช่วงนั้นเกิดเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่พอดีค่ะ พอแต่งเสร็จเราเลยเดินทางไปๆ มาๆ เมกาอยู่ 2 รอบ เพราะที่ทำงานปิดเนื่องจากน้ำท่วมเป็นเดือน ประกอบกับเราได้ยื่นขอลาไปต่างประเทศไว้ก่อนหน้านั้นด้วยแล้วเพื่อจะไปฉลองคริสมาสต์กับปีใหม่กับแฟนที่เมกา
เพราะฉะนั้นตอนที่เรากับแฟนเริ่มยื่น CR-1 เป็นช่วงที่เราอยู่อเมริกาพอดีค่ะ เราใช้วิธีส่งเอกสารที่ต้องใช้ส่งไปพร้อม I-130 ไปที่อยู่แฟนทางไปรษณีย์ เผื่อโดนค้นกระเป๋าตอนเข้าเมกาจะได้ไม่สงสัยว่าเราจะเข้าไปอยู่เลยแล้วปรับสถานะหรืออะไรทำนองนั้น เพราะตอนนั้นเราเดินทางเข้าเมกาด้วยวีซ่าท่องเที่ยวในชื่อสกุลก่อนแต่งงาน
เอกสารที่ต้องส่งในขั้น USCIS นี้ หลักๆ ก็มีแบบฟอร์ม 2 อัน คือ
- I-130
- G-325A
โดย I-130 นี้ใช้ 1 ชุดต่อหนึ่งเคส ส่วน G-325A ใช้ 2 ชุด คือสามีกรอกชุดนึง และเรากรอกชุดนึงของใครของมัน รายละเอียดเกี่ยวกับแบบฟอร์ม ดาวน์โหลดแบบฟอร์มและ fee สำหรับขั้นตอนนี้สามารถไปดูได้ ที่นี่
เอกสารที่ใช้ส่งพร้อม I-130 นี้ให้ยึดตาม instructions ของ I-130 เป็นหลัก ให้ส่งให้ครบตามที่ instructions บอก ห้ามขาดเพราะจะถูกเรียกเอกสารเพิ่มทำให้เสียเวลาออกไปอีก และถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องส่งอะไรเกิน เพราะอาจเป็นประเด็นให้ จนท พิจารณามากขึ้น และอาจทำให้เสียเวลาได้เช่นกัน
ส่วนของเราตอนนั้น เอกสารที่เราส่งไปทั้งหมดแยกออกได้เป็น 3 ส่วน คือ
1. เอกสารของแฟนชาวอเมริกัน
- G-325A กรอกและเซ็นต์เรียบร้อย
- birth certificate
- divorce decree
- รูปถ่าย 2x2 นิ้ว 1 ใบ
2. เอกสารของเราชาวไทย
- G-325A กรอกและเซ็นต์เรียบร้อย
- รูปถ่าย 2x2 นิ้ว 1 ใบ
3. เอกสารร่วม
- I-130 กรอกและเซ็นต์เรียบร้อย
- เช็คสั่งจ่ายค่าธรรมเนียม I-130 (ดูรายละเอียดการจ่ายและจำนวนเงินใน instructions ของ I-130)
- สำเนาใบสำคัญการสมรส (ใบกรอบดอกไม้)
- ใบแปลใบสำคัญการสมรสเป็นภาษาอังกฤษ แปลและรับรองโดยเราเอง ตัวจริง
- สำเนาหนังสือสัญญาเช่าอพาร์ทเม้นต์และตึกที่อยู่ร่วมกันที่ไทย (ส่วนนี้อยู่ในส่วนของเอกสารแสดงความสัมพันธ์ ซึ่งมีระบุใน instructions ของ I-130)
รวมรวมเอกสารเสร็จเรียบร้อยเราก็ส่งไป USCIS ตามที่อยู่ที่ระบุใน instructions ของ I-130
หลังจากเราส่ง I-130 ได้ 9 วันก็ได้รับ NOA 1 ซึ่งเป็นจดหมายที่ส่งมายังที่อยู่แฟนค่ะ ซึ่งจะมีเลข receipt number ที่ขึ้นต้นด้วย WACxxxxxxxxxx โดยเราสามารถนำเลขนี้ไปเช็ค case status ในขั้นของ USCIS ได้ที่ https://egov.uscis.gov/cris/Dashboard/CaseStatus.do ค่ะ
ตอนหน้ามาต่อที่ขั้น NVC กันนะคะ
No comments:
Post a Comment